ปัจจัยที่ทำให้เกิด ฝ้า และ กระ คือ
- แสงแดด เพราะแสงแดดมีส่วนประกอบของรังสีอัลตราไวโอเลตชนิด A ( UVA ) และชนิด B ( UVB ) รังสีทั้ง 2 ชนิดนี้เป็นปัจจัยสำคัญที่กระตุ้นให้เกิดฝ้าขึ้น
- ฮอร์โมนเพศ ชนิดเอสโตรเจน ( Estrogen ) และโปรเจสเตอโรน ( Progesterone ) มีผลทำให้เกิดฝ้าขึ้นได้ โดยการสังเกตุจะพบว่าฝ้าจะเป็นมากขึ้นในสตรีที่รับประทานยาคุมกำเนิดหรือสตรีที่ตั้งครรภ์ และฝ้า มักจะจางลงภายหลังหยุดยาคุมกำเนิดหรือหลังคลอด เพราะเวลาฮอร์โมนเพศหญิงมีการเปลี่ยนแปลงฮอร์โมนอย่างรวดเร็ว อย่างเช่น ตั้งครรภ์ ไม่ใช่ฮอร์โมนเพิ่มขึ้นเท่านั้น บางครั้งการที่ฮอร์โมนลดลงอย่างรวดเร็ว ก็ทำให้เกิดฝ้าได้เช่นกัน อย่างช่วงเข้าสู่วัยทอง วัยหมดประจำเดือน ก็มีฝ้าขึ้นได้เหมือนกัน
- ยา บางชนิดอาจมีส่วนทำให้ฝ้ามีสีคล้ำขึ้น เช่น ยากันชักชนิด diphenylhydantoin
- การแพ้เครื่องสำอาง โดยเฉพาะการแพ้น้ำหอมหรือสีที่ผสมอยู่ในเครื่องสำอางนั้นๆ อาจเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดฝ้าได้
ฝ้า และ กระ มีความแตกต่างกันอย่างไร
ฝ้า โดยทั่วไปแล้ว จะมีลักษณะเป็นปื้นใหญ่สีน้ำตาลอ่อนถึงเข้ม มักเกิดบนบริเวณหน้าผาก โหนกแก้ม แก้ม ดั้งจมูก และบริเวณเหนือริมฝีปากบน
กระ นั้นมีลักษณะเป็นจุดเล็กๆ สีน้ำตาลไม่นูนมาก มักเกิดขึ้นตรงบริเวณแก้ม พบได้ทั้งผู้หญิงและผู้ชาย กระมีหลายชนิด เช่น
- กระเนื้อ มีลักษณะเป็นตุ่นสีน้ำตาลขนาดเล็กๆตั้งแต่ 1 มิลลิเมตร จนถึงขนาดใหญ่เป็นเซ็นติเมตร บริเวณที่เกิดกระเนื้อนั้นมีทั้งบริเวณหน้าอก และคอ เป็นทั้งผู้หญิงและผู้ชาย
- กระลึก มีลักษณะเป็นจุดสีน้ำตาลหรือดำ โดยมีขนาด 3-5 มิลลิเมตร ไม่นูนขอบเขตไม่ค่อยชัด บริเวณที่เกิดขึ้นมักจะเกิดที่โหนกแก้ม มักพบในผู้หญิง
วิธีป้องกันการเกิดฝ้า กระ
- พยายามหลีกเลี่ยงไม่ให้ใบหน้าปะทะกับแสงแดดโดยตรง ถึงแม้จะทาผลิตภัณฑ์ป้องกันยูวีอย่างดีแล้วก็ตาม
- หลีกเลี่ยงการโดนแสงในระยะใกล้ๆ เช่น แสงจากหน้าจอคอมพิวเตอร์ แสงจากโคมไฟ หรือแสงไฟสปอร์ตไลท์ เป็นต้น
- ทาผลิตภัณฑ์ป้องกันแสงแดดเป็นประจำอย่างน้อยวันละ 1-2 ครั้ง แม้อยู่ในที่ร่ม
- หลีกเลี่ยงและงดใช้ผลิตภัณฑ์ทาผิวหน้าที่มีส่วนผสมของน้ำหอม
- รักษาสุขภาพร่างกาย โดยการพักผ่อนให้เพียงพอ รับประทานอาหารที่มีประโยชน์ ดื่มน้ำให้มากๆ ไม่เคร่งเครียด
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น