วันอาทิตย์ที่ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2559

8 อาหารต้านสิว กินแล้วผิวใส


ในการดูแลผิวพรรณไม่ให้เกิดสิวด้วยการเลือกทานอาหารที่ดีนั้น ก็สามารถช่วยแก้ปัญหาได้ดีอีกทางหนึ่ง เพราะว่าการทานอาหารบางชนิดที่มีค่าน้ำตาลสูง อาหารประเภทแป้ง หรือ คาร์โบไฮเดรต นั้นก็เป็นตัวกระตุ้นที่ทำให้มีการเกิดสิวขึ้นได้ แต่ก็พบว่าอาหารบางชนิดที่เมื่อทานเข้าไปแล้ว หรือนำมาสกัด นำมาทาหรือพอกทิ้งไว้บนผิว ก็สามารถช่วยลดอาการอักเสบ ช่วยในการฆ่าเชื้อ ช่วยสมานแผล หรือลดรอยด่างดำต่างๆที่เกิดจากสิวได้เช่นกัน


เรามาดูกันดีกว่าว่ามีอาหารอะไรบ้างที่เมื่อทานเข้าไปแล้วสามารถลดสิว ลดการอักเสบของสิว และลดการเกิดของสิวไม่ให้ขึ้นมาใหม่ได้

ถั่วเขียว ( Green beans )

ถั่วเขียวอุดมไปด้วยแมกนีเซียม ซึ่งเป็นแร่ธาตุที่ช่วยในการทำงานของระบบเผาผลาญในร่างกาย ช่วยผลิตโปรตีน และกาดหดตัวข้องกล้ามเนื้อ ช่วยลดระดับไขมันและคอเลสเตอรอล ช่วยควบคุมระดับไขมันในเลือด ควบคุมน้ำหนักได้ เพราะถั่วเขียวมีส่วนประกอบของไขมันที่ต่ำมาก ไม่มีคอเลสเตอรอล และยังอุดมไปด้วยโปรตีนกับเส้นใยอาหาร ช่วยแก้ลำไส้อักเสบ ช่วยแก้ผดผื่นคัน การใช้ถั่วเขียวดิบหรือต้มสุก นำมาใช้ตำแล้วพอกสามารถใช้เป็นยารักษาภายนอกช่วยในการบ่มหนอง สิว ให้สุก และแห้งเร็วขึ้น

ผักใบเขียว ( Greens )

ในผักใบเขียวนั้นมีทั้งคลอโรฟิลและวิตามินเอที่มีประโยชน์ต่อร่างกายและผิวมาก การทานผักใบเขียวในแต่ละครั้งนอกจากจะช่วยย่อยอาหารให้ง่ายขึ้นแล้ว ยังสามารถช่วยต่อต้านสิว ริ้วรอย และลดการอักเสบของผิว รวมทั้งทำให้ผิวแข็งแรงทนต่อแสงแดดที่มาทำลายได้ดีขึ้น

ชาเขียว ( Green tea )

ในใบชาเขียวจะมีสารประกอบของฟีนอล (Phenolic compound) อยู่มาก เนื่องจากไม่ได้ผ่านขั้นตอนการหมัก จึงทำให้ชาเขียวมีฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระสูง ส่วนสารสำคัญที่พบได้ในชาเขียว ประกอบไปด้วย กรดอะมิโน วิตามินบี วิตามินซี วิตามินอี สารในกลุ่ม xanthine alkaloids คือ คาเฟอีน และธิโอฟิลลีน ซึ่งเป็นสารที่มีฤทธิ์กระตุ้นการทำงานของระบบประสาทส่วนกลาง โดยคาเทชินที่พบได้มากและมีฤทธิ์ทรงพลังที่สุดในชาเขียว คือ สารอีพิกัลโลคาเทชินกัลเลต ซึ่งมีความสำคัญในการออกฤทธิ์ต้านอนุมูลอิสระ ลดริ้วรอยก่อนวัย นอกจากนี้ใบชาเขียวยังมีสารสารพอลิฟีนอลส์ที่ช่วยยับยั้งการเจริญเติบโตของแบคทีเรียถึง 30% ลดการผลิตของสารประกอบที่เป็นสาเหตุทำให้ลมหายใจเหม็นบูด ช่วยในการเสริมสร้างความแข็งแรงให้แก่เซลล์ผิว อีกทั้งยังทำหน้าที่ขับล้างสารพิษออกจากร่างกาย ทำให้ผิวหนังของเราแข็งแรงขึ้น

แตงกวา ( Cucumber )

แตงกวาอุดมไปด้วยสารสำคัญหลายชนิดที่มีผลต่อการสร้างเสริมสุขภาพผิวที่ดี และเป็นสารตั้งต้นในการสังเคราะห์ที่ให้ความชุ่มชื้นตามธรรมชาติหรือ Natural Moisturizing Factors (NMFs) และยังมีกรดอะมิโนซีสทีน (Cystine) และเมไธโอนีน (Methionine) ที่ช่วยทำให้เกิดความยืดหยุ่นแก่ผิว จากผลงานวิจัยพบว่าแตงกวามีฤทธิ์ฆ่าเชื้ออ่อน ๆ ในการช่วยยับยั้งแบคทีเรีย กระตุ้นลำไส้เล็กและมดลูกให้หดตัว ทรีทเม้นท์ที่ทำจากแตงกวายังช่วยลดรอยเหี่ยวย่น ลดสิว ลดจุดด่างดำ ช่วยบำรุงทำให้ผิวหน้าอ่อนเยาว์ เพิ่มความชุ่มชื้น ไม่ทำให้หน้ามัน ทำให้ผิวขาวใส ช่วยบำรุงดวงตา แก้ปัญหาขอบตาคล้ำ ตาบวมด้วย

มะนาว ( Lemon )

ในน้ำมะนาวจะประกอบด้วย กรดมะนาว หรือ กรดซิตริก (citric acid) ซึ่งเป็นกรดที่ทำให้มะนาวมีรสเปรี้ยว และกรดผลไม้ AHA หรือ Alpha Hydroxy Acids ทำงานโดยการลอกเอาเซลล์ผิวที่ตายแล้วออก ช่วยสร้างความยืดหยุ่นให้แก่ผิว และช่วยให้เซลล์ผิวใหม่ที่อยู่ด้านล่างได้ผลัดขึ้นมาแทนที่เซลล์ผิวเก่าที่ตายแล้ว ยังช่วยชำระรูขุมขนและช่วยให้ผิวรู้สึกสดชื่น สดใส กรดนี้จะเป็นกรดอ่อนๆ แต่หากนำมาทาตรงบริเวณผิวจะช่วยให้เนื้อเยื่อที่ตายแล้วที่หลงเหลือหลุดออกไป ทำให้ลดการอุดตันของรูขุมขน ช่วยกำจัดเชื้อโรคและไขมันให้ลดลง

แตงโม ( Watermelon )

แตงโม ถือว่าเป็นผลไม้เพื่อสุขภาพอีกชนิดก็ว่าได้ เพราะในเนื้อของแตงโมนั้นเต็มเปี่ยมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุที่จำเป็นต่อร่างกายมากมายหลายชนิด เช่น วิตามินเอ วิตามินซี วิตามินบีรวม แคลเซียม เหล็ก แมกนีเซียม โพแทสเซียม และฟอสฟอรัส เป็นต้น วิตามินและแร่ธาตุมากมายเหล่านี้เมื่อทานเข้าไปอยู่ในร่างกายแล้ว จะช่วยเพิ่มเบต้าแคโรทีนที่ร่างกายเอาไว้ใช้ในการสร้างวิตามินเอ ช่วยป้องกันการติดเชื้อ ช่วยไม่ให้ร่างกายมีการสะสมของกรดยูริคมากเกินไป ซึ่งเป็นสาเหตุของการเกิดโรคไขข้อ โรคเกาต์ ในแตงโมยังมีวิตามินเอ ช่วยบำรุงสายตา และวิตามินซี ช่วย ป้องกันโรคเลือดออกตามไรฟันช่วยชะล้างของเสียในกระเพาะและไตขับออกมาทางปัสสาวะ

มะเขือเทศ ( Tomato )

อุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุอยู่หลายชนิดที่มีประโยชน์ต่อร่างกายเช่น วิตามินซี วิตามิเอ วิตามินเค วิตามินพี วิตามินบี1 วิตามินบี2 ธาตุแคลเซียม ธาตุฟอสฟอรัส ธาตุเหล็ก และยังมีสารจำพวก ไลโคพีน ( Lycopene ) แคโรทีนอยด์ เบต้าแคโรทีน และ กรดอะมิโน ที่ช่วยบำรุงผิวพรรณให้แข็งแรง ชุ่มชื้น ช่วยลดริ้วรอยก่อนวัย และที่สำคัญมะเขือเทศยังช่วยในการรักษาสิวได้อีกด้วย โดยการทานหรือนำเนื้อมะเขือเทศมาพอกผิวหน้าหรือฝานบางๆแล้วนำมาแปะหน้านั่นเอง

น้ำมันมะกอก ( Olive oil )

ในน้ำมันมะกอกมีสาร โอลีโอแคนธัล ที่สามารถป้องกัน ต้าน และลดการอักเสบของสิวที่เกิดได้ แต่จำเป็นต้องใช้ระยะเวลาในการรักษา และต้องทานน้ำมันมะกอกอย่างเสม่ำเสมอ นอกจากนี้น้ำมันจากธรรมชาติบริสุทธิ์ ยังสามารถซึมซาบสู่ผิวได้เป็นอย่างดี ทำให้เซลล์ผิวพรรณอิ่มน้ำ ชุ่มชื้น เปล่งปลั่ง และยังช่วยกระตุ้นระบบการไหลเวียนเลือด ช่วยขับล้างสารพิษในร่างกาย



ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น